เห็บ (Tick)
ทำไมต้องกำจัดเห็บ
เห็บในบ้านเราเป็นชนิดที่เรียกว่าเห็บสีน้ำตาล (Brown Dogs Ticks) มีวงจรทั้งบนตัวสุนัขและอาศัยอยู่ใน สภาพแวดล้อม
- เห็บดูดเลือด ทำให้สุนัขโลหิตจาง
- เห็บนำโรคพยาธิในเม็ดเลือดเป็นโรคร้ายแรงที่ทำให้สุนัขตายได้
- เห็บรบกวนคุณภาพชีวิตสัตว์ สร้างความรำคาญให้แก่เจ้าของ
เห็บกับหมัดต่างกั้นอย่างไร
- เห็บมักอยู่บนตัวสุนัข พบน้อยในแมว
- เห็บเกาะนิ่งอยู่กับที่เมื่ออยู่บนตัวสุนัข แต่หมัดจะเคลื่อนที่รวดเร็ว กระโดดได้ ทำให้จับตัวยาก
วงจรชีวิตของเห็บ
เห็บจะฟักออกจากไข่นอกตัวสุนัข หลังจากนั้นจะเกาะบนตัวสุนัขเพื่อดูดเลือดและออกจากตัวสุนัข เพื่อลอกคาบและกลับขึ้นไปบนตัวสุนัขใหม่อีก 2 ครั้งจนโตเต็มวัย เห็บตัวเมียก็จะออกจากตัวสุนัขและไปวางไข่ เห็บตัวเมียสามารถวางไข่ได้ถึง 4,000 ฟอง จากเหตุผลดังกล่าวจึงทำให้การกำจัดและควบคุมเห็บหมัด เป็นไปด้วยความยากลำบาก
การกำจัดเห็บหมัดอย่างมีประสิทธิภาพ
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ออกฤทธิ์กำจัดเห็บได้ทุกระยะเพื่อตัดวงจรชีวิตของเห็บ
- ควรกำจัดควบคู่กันไปทั้งบนตัวสุนัขและในสภาพแวดล้อม เพราะเห็บไม่ได้อยู่บนตัวสุนัขเพียงอย่างเดียวแต่จะลอกคราบและออกไข่ในสภาพแวดล้อมด้วย
หมัด (Flea)
ความสำคัญของหมัด
- ทำให้เกิดโรคผิวหนังจากการแพ้น้ำลายหมัด
- เป็นพาหนะนำพยาธิตืดแตงกวา ซึ่งเป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน
สาเหตุ
- เกิดจากหมัดในสกุล Ctenocephalides felis
วงจรชีวิต
ตัวเต็มวัยของหมัดตัวเมียจะดูดเลือดและสามารถอยู่บนตัวสัตว์ได้เป็นระยะเวลาหลายสัปดาห์ หมัดตัวเมียวางไข่บนขนสัตว์ ได้มากถึง 50 ฟองต่อวัน นานติดต่อกันเป็นเวลาหลายสัปดาห์ จากนั้นไข่จะตกลงพื้นและฟักตัวในสิ่งแวดล้อม ประเทศไทยจัดเป็นประเทศที่มีภูมิอากาศเหมาะสมในการฟักตัวของหมัดอย่างมาก ไข่หมัดจะใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่วันก็ฟักเป็นตัวอ่อน ตัวอ่อนของหมัดจะมีขนาดเล็กมาก ลักษณะ คล้ายตัวบุ้งและเจริญเติบโตโดยการกินเศษขน มูลของหมัดตัวเต็มวัยและเนื้อเยื่อต่างๆ ที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมภายในเวลาไม่กี่วันตัวอ่อนของหมัดจะกลายเป็นดักแด้และใช้เวลาประมาณไม่เกิน 10 วัน ในการพัฒนาเป็น ตัวเต็มวัย
การกำจัดหมัดอย่างมีประสิทธิภาพ
- กุญแจสำคัญที่กำจัดหมัดได้อย่างถาวรก็คือ ยาที่ใช้จะต้องมีประสิทธิภาพในการกำจัดตัวเต็มวัย และตัวอ่อนของหมัดได้อย่างรวดเร็ว ต้องกำจัดหมัดทั้งบนตัวสัตว์เลี้ยงและในสิ่งแวดล้อมเพราะหมัดตัวเต็ม วัยที่อยู่บนสัตว์เลี้ยงนั้นเป็นเพียง 5% ของประชากรหมัดทั้งหมดเท่านั้น ประชากรที่เหลือ 95% แอบซ่อนอยู่ใน สิ่งแวดล้อม คอยเวลาที่จะกลับขึ้นมาบนสัตว์เลี้ยงอีกครั้ง
- ปัจจุบันมียาหยดหลัง ที่สามารถป้องกันและกำจัดหมด ซึ่งสามารถฆ่าหมัดได้อย่างรวดเร็ว สามารถใช้ในการรักษาโรคผิวหนังจากการแพ้น้ำลายหมัดได้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คลินิกสัตว แพทย์หรือโรงพยาบาลสัตว์ใกล้บ้านท่าน
- การกำจัดหมัดสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งสำคัญมากจึงควรเลือกใช้ยาที่มีประสิทธิภาพกำจัดหมัดในสิ่งแวดล้อมได้ ที่นิยมคือ Flumethrin (ไบติคอล 6 % อี.ซี.) แบบผสมน้ำเพื่อราดในบริเวณสานมหญ้าหรือฉีดพ่นในบริเวณที่สัตว์เลี้ยงอาศัยอยู่ ควรทำเป็นประจำทุกๆ 2 สัปดาห์จนกว่าหมัดจะหมดไปจากสิ่งแวดล้อม
- การใช้ยากำจัดหมัด ควรได้รับคำแนะนำการใช้จากสัตวแพทย์เพราะยาบางกลุ่มไม่สามารถใช้กับแมวได้